ปะทะเดือด! อีกครั้ง ทหารไทยโดนเปิดก่อน แต่โต้กลับวิสามัญดับอนาถ 9ราย - Newsthaidaily.com

ปะทะเดือด! อีกครั้ง ทหารไทยโดนเปิดก่อน แต่โต้กลับวิสามัญดับอนาถ 9ราย

วันที่ 12 ส.ค.68 ทางเพจ กองทัพภาคที่ 2 ได้ออกมาโพสต์แถลงการณ์ ว่า ทบ.ชี้กัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดคุกคามต่อเนื่อง ไม่สนผิดอนุสัญญาออตตาวา โฆษก ทบ.เผยหากสถานการณ์บีบบังคับ กองทัพอาจจำเป็นต้องใช้สิทธิ์ป้องกันตนเองตามหลักสากล

พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 09.10 น. สิบเอก ธีรพล เพียขันที สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 2610 พร้อมกำลังพลรวม 7 นาย ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย บนเส้นทางประจำ ห่างจากปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ประมาณ 1 กิโลเมตร ระหว่างปฏิบัติภารกิจ สิบเอก ธีรพลฯ ได้เหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางไว้ ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณข้อเท้าซ้าย ปัจจุบันได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลพนมดงรัก อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว

เหตุการณ์นี้เป็นหลักฐานชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และไม่เคารพต่อกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งห้ามใช้และวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทุกชนิด นับเป็นการลอบโจมตีที่มีเป้าหมายต่อกำลังพลฝ่ายไทยโดยตรง และเกิดขึ้นในเขตแดนไทย

ยิ่งไปกว่านั้น เหตุลักษณะเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้งในพื้นที่ชายแดน สะท้อนถึงเจตนาร้ายและพฤติกรรมต่อเนื่องของฝ่ายกัมพูชาในการคุกคามฝ่ายไทย และละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนไทย สวนทางกับข้อตกลงหยุดยิงระหว่างประเทศในการประชุม GBC ที่ผ่านมา จึงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า การใช้อาวุธโดยฝั่งกัมพูชายังคงมีอยู่ตลอดเวลาในช่วงมีข้อตกลงหยุดยิง

ยอมรับว่าพฤติกรรมและการกระทำลักษณะเช่นนี้ย่อมเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการในมาตรการหยุดยิงอย่างแน่นอน รวมถึงเป็นท่าทีที่ชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชาต้องการจะคุกคามฝ่ายไทย ด้วยการใช้อาวุธทางทหารในรูปแบบซ้อนเร้นไม่เปิดเผย ทำให้เชื่อได้ว่ากัมพูชายังคงดำรงความมุ่งหมายที่จะทำร้ายฝ่ายไทยด้วยรูปแบบลอบทำร้ายอยู่เช่นนี้ตลอดเวลา ถึงแม้ว่า ณ ช่วงเวลานี้จะอยู่ในช่วงการตกลงที่จะหยุดยิง ซึ่งต้องไม่มีการใช้อาวุธต่อกันในทุกรูปแบบ

นอกจากนี้สิ่งที่เกิดขึ้นยังสอดรับกันอย่างเป็นระบบโดยเฉพาะจากการที่กัมพูชาไม่ยอมตอบรับข้อเสนอฝ่ายไทย ในเรื่องของทุ่นระเบิดจากการประชุม GBC ในครั้งที่ผ่านมา จึงเชื่อว่าเรื่องทุ่นระเบิดนี้น่าจะมีการวางแผนใช้กันมาอย่างเป็นระบบเพื่อเจตนานำมาใช้คุกคามทำร้ายฝ่ายไทย

ปะทะเดือด! ทหารไทยโดนเปิดก่อน แต่โต้กลับวิสามัญดับอนาถ 4 ราย

วันที่ 13 มิ.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามนโยบายกองทัพบก ทางกองบังคับการควบคุมผาดำ หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ ร้อย.ม.3 ฉก.ไชยานุภาพ ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า จะมีการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ หน่วยจึงจัดกำลัง บก.ร้อย.ม.3ฯ จำนวน 1 ชป. ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจบริเวณเส้นทางลงบ้านขอบด้ง ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ในห้วงเย็นวันที่ 12 มิ.ย. 68 ถึง 15 มิ.ย.68

จนกระทั่ง วันนี้ เจ้าหน้าที่ที่ทำการเฝ้าตรวจ จะทำการถอนตัวเพื่อเปลี่ยนพื้นที่ ลว.เฝ้าตรวจ ดังกล่าว กลับตรวจพบกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ประมาณ 6 – 8 คน แบกเป้สะพายหลัง หน่วยจึงให้สัญญาณหยุดเพื่อทำการตรวจสอบ แต่กลุ่มขบวนการดังกล่าว ได้ใช้อาวุธไม่ทราบชนิดยิงมายังฝ่ายเรา จนเกิดการปะทะ ประมาณ 10 นาที

เมื่อสิ้นเสียงการปะทะ ฝ่ายทหารไทยปลอดภัย ส่วนกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด เสียชีวิตทั้งหมด 4 ศพ ส่วนที่เหลือ อาศัยห้วงทัศนวิสัยจำกัด และความชำนาญในพื้นที่ หลบหนีไปได้ จากการตรวจสอบสามารถยึดของกลาง เป็นเป้ที่บรรจุยาเสพติดไม่ทราบชนิด จำนวน 4 เป้ จำนวน 400,000 เม็ด ผงขาว 500 กรัม ปืนลูกซองจำนวน 1 กระบอก

หน่วยจัดกำลังเพิ่มเติม จำนวน 3 ชป. เข้าควบคุมพื้นที่เกิดเหตุ ชป.ที่ 1 ทางลงจากเขา – บ่อน้ำหลังบ้านขอบด้ง ชป.ที่ 2 ทางลงจากบ้านขอบด้ง-บ่อน้ำ ชป.501 ลว.พิสูจน์ทราบ และทางพ.อ.มีชัย นิลศาสตร์ รองผู้บัญชาการกองกำลังผาเมืองได้นำส่วนราชการ ว่าที่ร้อยตรี นพรัตน์ ศุภกิจโกศลนายอำเภอฝาง แพทย์โรงพยาบาลฝาง อัยการฝาง พนักงานสอบสวนฝาง ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องขึ้นมาตรวจพื้นที่จุดปะทะขบวนการลักลอบขนยาบ้าในวันนี้

ผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่ รายงาน

ซึ่งที่ผ่านมากองทัพบกได้ยึดมั่นในแนวทางสันติวิธีมาโดยตลอด และไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน แต่หากสถานการณ์บีบบังคับก็อาจจำเป็นต้องใช้สิทธิ์ในป้องกันตนเองภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศในการคลี่คลายสถานการณ์ที่ทำให้ฝ่ายไทยต้องสูญเสียกำลังพลอย่างต่อเนื่อง จากการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและรุกล้ำอธิปไตยของทหารกัมพูชา

Related Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *